หน้าใส ไร้สิว ฝ้า ด้วย เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ

 

เบต้ากลูแคน มะโฮ ผิวขาว สวยหน้าใสเบต้ากลูแคน ทาผิว ในรูปแบบเจล สามารถนำมาทาผิวหน้า  ซึ่งการทาผิวหนัง จะช่วยลดการอักเสบของสิว  ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลาเจนในชั้นผิวหนังและ ลดริ้วรอยร่องลึก ตีนกา ลดรอยแผลเป็นได้อีกด้วย

ด้วย คำว่าอายุของผิว หมายถึง การที่ความอ่อนเยาว์ของผิว แต่ละคน นั้นมีความแตกต่างกันและเมื่อเข้าสู่วัยกลางคน อายุของผิวจะต่างกันมากถึง 10 ปี อายุผิว เป็นตัวบ่งบอกถึง ความสมบูรณ์ของสุขภาพผิวแต่ละคน สุขภาพผิวที่ดีจะมีลักษณะเนียน เรียบ นุ่ม เต่งตึง มีน้ำหล่อเลี้ยง สีผิวสม่ำเสมอและมีเลือดฝาด ดูมีชีวิตชีวาโดยลักษณะโครงสร้างผิวหนังจะแบ่งเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (subcutaneous fatty layer)

สาเหตุแห่งความร่วงโรยของผิว

1. ความแห้งกร้าน เนื่องจากชั้นผิวประกอบด้วยเคราดิน (Keratin) น้ำ และ น้ำมันที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เมื่อร่างกายขาดน้ำ จะนำมาซึ่งมีลักษณะเป็นขุย ผื่นแพ้ ผิวหนังอักเสบ
2. คอลลาเจน (Collagen) และอิลาสติน (Elastin) ลดลงและแข็งตัวตามอายุที่เพิ่มขึ้น
3. มลพิษทางสิ่งแวดล้อม สารเคมี รังสียูวี (UV) ในแสงแดด
4. นิสัยการรับประทานอาหารที่เปลี่ยนไป การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์
5. ความเครียดและการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ

วิธีใช้ มะโฮ

นำมะโฮมาทาหน้า  หลังล้างหน้า หรือก่อนนอน  จากนั้นนวดหน้าให้ทั่วจนแห้งสนิทหรือปล่อยทิ้งไว้ก็ได้(เปรียบเสมือนเอสเซนส์บำรุงผิว)  สามารถนำมาทาบริเวณที่เป็นสิวอักเสบได้ จะยิ่งดี  หากเปิดมะโฮใช้แล้วจะมีอายุการใช้งาน 5-7 วัน ควรเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อยืดอายุของสารอาหาร

 

การป้องกันการร่วงโรยของผิวที่สามารถปฏิบัติได้ง่ายๆ

1. ดื่มน้ำสะอาด อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น มีน้ำหล่อเลี้ยง
2. รักษาความสะอาด กำจัดสิ่งสกปรกอุดตันบริเวณรูขุมขน และน้ำมันที่เป็นส่วนเกิน
3. รับประทานอาหารอุดมด้วยแร่ธาตุ วิตามิน อาหารที่มีไขมันน้อย กากใยสูง
4. หลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณการดื่มชา กาแฟ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่
5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากแสงแดดเป็นตัวกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน และทำให้คอลลาเจนแข็งตัว

งานวิจัยเบต้ากลูแคนกับผิวหนัง

มหาวิทยาลัยแอลเบอต้า(University of Alberta, Canada)เป็นผู้นำในการศึกษาเรืองผิวสวยด้วยเบต้ากลูแคน ว่า เบต้ากลูแคน (Beta glucan) สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ ซึ่งวงการวิทยาศาสตร์เคยเชื่อว่าผิวหนังไม่สามารถดูดซึมเนื่องจากมีโมเลกุลขนาดใหญ่ แต่ความเป็นจริงแล้วพบว่า เบต้ากลูแคนสามารถซึมผ่านไขมันที่ยึดช่องระหว่างเซลล์ ลงไปได้ ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพผิวแล้วยังลบรอยล่องลึกบนใบหน้ารักษาแผลผ่าตัด ลดขนาดแผลเป็นได้ด้วย

การทำงานของเบต้ากลูแคนในผิวหนัง สารเบต้ากลุแคนมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระคุณภาพสูงเหนือกว่าวิตามิน อี และวิตามินซี
1. เบต้ากลูแคนจะกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว ชื่อ Langerhans Cell เป็นเซลล์ภูมิคุ้มกันผิวหนัง ให้ออกมากินสิ่งแปลกปลอมรวมทั้งป้องกันการติดเชื้อ ได้ และชะลอความแก่ได้อีกด้วย
2. นักวิทยาศาสตร์บางท่าน พบว่า เบต้ากลูแคน สามารถจับกับเซลล์เนื้อเยื้อผิวหนัง(Fibroblast) ได้เช่นเดียวที่มันจับกับเซลล์ภูมิคุ้มกันตัวอื่นๆ ช่วยกระตุ้นการสร้าง คอลาเจน อิลาสติน และกรดไฮยาลูโรนิ ตามของผิวธรรมชาติอีกด้วยซึ่งทำให้ผิวหนังยืดหยุ่นลดริ้วรอย และมีน้ำมีนวล และโครงสร้างผิวหนังยังแข็งแรงอีกด้วย

เบต้ากลูแคนมีฤทธ์ป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ เสริมคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวแข็งแรง ผิวยืดหยุ่นได้ดีขึ้น ช่วยลดริ้วรอยให้จางลง และต้านริ้วรอยใหม่ นอกจากนั้นยังเข้าไปซ่อมแซม DNA/RNA ในเซลล์ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพิ่มภูมิคุ้มกันในเซลล์เม็ดเลือดขาว เซลล์ต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใต้ผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ลดการแสบแดง ถลอก ความหมองคล้ำ แก้ปัญหาสิวอักเสบ เรื้อรัง สมานรอยแผลเป็น ลดดอาการระคายเคือง  กระชับรูขุมขนได้อย่างดี ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ  เห็นผลชัดเจนเมื่อใช้ต่อเนื่องภายใน 7 วัน

เบต้ากลูแคน มะโฮ ผิวขาว สวยหน้าใสประโยชน์ของเบต้ากลูแคนต่อผิว
1. รักษาผิวหนังอักเสบ โดยเพิ่มภูมิต้านทานผิวหนังให้แข็งแรง
2. ผิวหนังเต่งตึง เพราะผลิตคอลาเจนในชั้นผิวหนัง
3. ลดริ้วรอยร่องลึก ตีนกา ถ้าใช้ร่วมกับ 15% L-ascorbic asid ชนิดทาจะดีมาก
4. ลดรอยแผลเป็น Scar care
5. รักษาแผลทุกชนิดรวมทั้งแผลจากศัลยกรรม
6. รักษาผิวแห้ง โดยสรรพคุณของเส้นใยทำให้อมน้ำทำให้ผิวชุ่มชื้น
7. ทดแทนการฉีดโบท๊อกซ์ อาจจะดีกว่าเพราะไม่ต้องบาดเจ็บไม่มีความเสี่ยงต่อยาฉีด เพราะโบท๊อกซ์ผลิตจากสารพิษของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจจะออกฤทธิ์มากเกินต้องการได้

หนังสืออ้างอิง: เบต้ากลูแคน ดีที่สุดในโลกที่มนุษย์เคยค้นพบ

0 0 votes
Rating