- This topic has 0 ข้อความตอบกลับ, 1 เสียง, and was last updated 1 year, 9 months มาแล้ว by stumAmesk.
กำลังดู 1 ข้อความ - 1 ผ่านทาง 1 (ของทั้งหมด 1)
-
ผู้เขียนข้อความ
-
betaglucan-mahoKeymaster
โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
เป็นโรคติดชื้อทางเดินหายใจส่วนบน พบได้บ่อยตลอดปี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเด็กเล็กอาจเป็นปีละหลายครั้ง มักเป็นในฤดูหนาว ฤดูฝน หรือช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย อีกทั้งยังติดต่อกันได้ง่ายในสถานที่แหล่งรวมคน เช่น โรงเรียน สถานที่ทำงาน เป็นต้น
สาเหตุของไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
-
ไข้หวัดเกิดจากเชื้อไวรัสที่มีอยู่มากกว่า 200 สายพันธุ์ เช่น กลุ่มไวรัสโคโรนา(coronavirus), กลุ่มไวรัสเอนเทอโร(enterovirus) แต่ที่พบบ่อยที่สุดคือเชื้อไวรัสกลุ่มไรโนไวรัส(rhinovirus) ซึ่งมีมากกว่า 100 ชนิด และเป็นกลุ่มไวรัสที่ติดต่อได้ค่อนข้างง่าย
-
ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา(influenza virus) มีอยู่ 3 ชนิดใหญ่ คือ ชนิดเอ บี และซี โดย 3ชนิดนี้ทำให้เกิดโรคมากกว่าชนิดอื่น ซึ่ง 3 ชนิดนี้ถูกแบ่งเป็นสายพันธุ๋ย่อยอีกมากมาย โดยเฉพาะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ จะก่อให้เกิดโรคบ่อยที่สุด มีอาการรุนแรงมาก และสามารถกลายพันธุ๋เป็นสายพันธุ๋ใหม่ๆ ซึ่งมักจะรุนแรงกว่าเดิม โรคไข้หวัดนกที่เป็นข่าวแพร่ระบาดก็จัดอยู่ในกลุ่มไวรัสชนิดนี้เช่นกัน
-
การเป็นโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ในแต่ละครั้ง จะเกิดเชื้อไวรัสเพียงหนึ่งสายพันธุ๋ย่อย เมื่อร่างกายเราหายแล้ว ร่างกายเราจะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตัวนั้น และถ้าเป็นหวัดครั้งต่อไป จะเกิดเชื้อไวรัสสายพันธุ๋ใหม่หมุนเวียนต่อไป
การติดต่อของโรค
-
เชื้อไวรัสไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ที่มีอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วยสามารถติดต่อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว
-
การหายใจเอาเชื้อโรคที่ลอยอยู่ในอากาศเข้าไปซึ่งมาจากการไอ หรือจามของผู้ป่วย
-
การสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วยผ่านสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อไข้หวัด เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ โทรศัพท์ ปากกา เป็นต้น จากนั้นใช้มือขยี้ตา แคะจมูก หรือนำเข้าปาก
อาการของโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
-
ไข้หวัดจะมีอาการคอแห้ง คันคอ คัดจมูก มีน้ำมูกใส จาม และไอ อาจมีเสมหะหรือไม่มีก็ได้ บางครั้งอาการไออาจนาน 2-3 สัปดาห์ หากเป็นไข้หวัดในเด็กมักจะมีไข้ ส่วนผู้ใหญ่อาจจะไม่มีไข้ก็ได้หรือมีไข้ต่ำๆ
-
ไข้หวัดใหญ่จะมีอาการคล้ายกับไข้หวัดแต่จะเป็นรวดเร็วและรุนแรงกว่า มักจะปรากฏอาการภายน 1-4 วัน หลังจากติดเชื้อ จะมีไข้สูง 39-40 องศา ประมาณ2-4 วัน มีอาการปวดศีรษะรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อและข้อ อ่อนเพลียแบบฉับพลัน ปวดกระบอกตา ตาแดง น้ำตาไหล เจ็บคอ มีน้ำมูกไหล ไอแห้งๆ หรือไอนาน 1-2 สัปดาห์ หลอดลมอักเสบ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอุจจาระร่วงในบางราย ส่งผลให้ต้องนอนพักฟื้นหลายวัน
-
ไข้หวัดใหญ่ อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้พบในคนที่มีโรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคมะเร็ง โรคภูมิคุ้มกันเสื่อม เป็นต้น และอาการรุนแรงมากขึ้นหากผู้ป่วยมีร่างกายที่อ่อนแอหรือภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็กเกิดอาการชักได้และหญิงมีครรภ์อาจทำให้แท้งได้
การรักษาไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
ยังไม่มียารักษาเฉพาะ สำหรับผู้ที่ดูแลสุขภาพอย่างถูกต้องจะแข็งแรงขึ้นและหายป่วยได้เองใน 1-2 สัปดาห์ สำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรงมากๆ ควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาให้ทุเลาลงโดยเร็วและไม่ปรากฏภาวะแทรกซ้อน ที่อาจเป็นได้ดังนี้
-
คออักเสบหรือทอนซิลอักเสบ
-
ไซนัสอักเสบ
-
หูชั้นกลางหรือหูชั้นในอักเสบ
-
กล่องเสียงอักเสบ
-
หลอดลมอักเสบ
-
ปอดอักเสบหรือปอดบวม
การรักษาทางเลือก มะโฮ เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ
เบต้ากลูแคนจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้รักษาตัวเองตามธรรมชาติ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ภูมิต้านทาน(เซลล์เม็ดเลือดขาว)ให้ตื่นตัวและพร้อมที่จะทำงานอยู่เสมอ โดยจะทำหน้าที่ดักจับและฆ่าทำลายเชื้อไวรัส เพื่อป้องกันการฟักตัวของเชื้อไวรัสไม่ให้ลุกลามไปทั่วร่างกาย ข้อมูลเบต้ากลูแคน มะโฮเพิ่มเติมที่นี่
ผม : ทานมะโฮ ตอนเริ่มมีอาการ หรือหลังป่วยเป็นไข้หวัด วันละ 2 ซอง เช้าวันถัดมา จะหายป่วยเลยหรือบางครั้งถ้าป่วยหนักมากๆ เช้าวันถัดมา จะมีแรงทำงานได้ตามปกติ จากเมื่อก่อนจะกินยาพาราเซตามอลซึ่งเป็นผลเสียต่อตับ ไต
-
-
ผู้เขียนข้อความ
-
ผู้เขียนข้อความ
-
โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
เป็นโรคติดชื้อทางเดินหายใจส่วนบน พบได้บ่อยตลอดปี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเด็กเล็กอาจเป็นปีละหลายครั้ง มักเป็นในฤดูหนาว ฤดูฝน หรือช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย อีกทั้งยังติดต่อกันได้ง่ายในสถานที่แหล่งรวมคน เช่น โรงเรียน สถานที่ทำงาน เป็นต้น
สาเหตุของไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
-
ไข้หวัดเกิดจากเชื้อไวรัสที่มีอยู่มากกว่า 200 สายพันธุ์ เช่น กลุ่มไวรัสโคโรนา(coronavirus), กลุ่มไวรัสเอนเทอโร(enterovirus) แต่ที่พบบ่อยที่สุดคือเชื้อไวรัสกลุ่มไรโนไวรัส(rhinovirus) ซึ่งมีมากกว่า 100 ชนิด และเป็นกลุ่มไวรัสที่ติดต่อได้ค่อนข้างง่าย
-
ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา(influenza virus) มีอยู่ 3 ชนิดใหญ่ คือ ชนิดเอ บี และซี โดย 3ชนิดนี้ทำให้เกิดโรคมากกว่าชนิดอื่น ซึ่ง 3 ชนิดนี้ถูกแบ่งเป็นสายพันธุ๋ย่อยอีกมากมาย โดยเฉพาะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ จะก่อให้เกิดโรคบ่อยที่สุด มีอาการรุนแรงมาก และสามารถกลายพันธุ๋เป็นสายพันธุ๋ใหม่ๆ ซึ่งมักจะรุนแรงกว่าเดิม โรคไข้หวัดนกที่เป็นข่าวแพร่ระบาดก็จัดอยู่ในกลุ่มไวรัสชนิดนี้เช่นกัน
-
การเป็นโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ในแต่ละครั้ง จะเกิดเชื้อไวรัสเพียงหนึ่งสายพันธุ๋ย่อย เมื่อร่างกายเราหายแล้ว ร่างกายเราจะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตัวนั้น และถ้าเป็นหวัดครั้งต่อไป จะเกิดเชื้อไวรัสสายพันธุ๋ใหม่หมุนเวียนต่อไป
การติดต่อของโรค
-
เชื้อไวรัสไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ที่มีอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วยสามารถติดต่อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว
-
การหายใจเอาเชื้อโรคที่ลอยอยู่ในอากาศเข้าไปซึ่งมาจากการไอ หรือจามของผู้ป่วย
-
การสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วยผ่านสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อไข้หวัด เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ โทรศัพท์ ปากกา เป็นต้น จากนั้นใช้มือขยี้ตา แคะจมูก หรือนำเข้าปาก
อาการของโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
-
ไข้หวัดจะมีอาการคอแห้ง คันคอ คัดจมูก มีน้ำมูกใส จาม และไอ อาจมีเสมหะหรือไม่มีก็ได้ บางครั้งอาการไออาจนาน 2-3 สัปดาห์ หากเป็นไข้หวัดในเด็กมักจะมีไข้ ส่วนผู้ใหญ่อาจจะไม่มีไข้ก็ได้หรือมีไข้ต่ำๆ
-
ไข้หวัดใหญ่จะมีอาการคล้ายกับไข้หวัดแต่จะเป็นรวดเร็วและรุนแรงกว่า มักจะปรากฏอาการภายน 1-4 วัน หลังจากติดเชื้อ จะมีไข้สูง 39-40 องศา ประมาณ2-4 วัน มีอาการปวดศีรษะรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อและข้อ อ่อนเพลียแบบฉับพลัน ปวดกระบอกตา ตาแดง น้ำตาไหล เจ็บคอ มีน้ำมูกไหล ไอแห้งๆ หรือไอนาน 1-2 สัปดาห์ หลอดลมอักเสบ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอุจจาระร่วงในบางราย ส่งผลให้ต้องนอนพักฟื้นหลายวัน
-
ไข้หวัดใหญ่ อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้พบในคนที่มีโรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคมะเร็ง โรคภูมิคุ้มกันเสื่อม เป็นต้น และอาการรุนแรงมากขึ้นหากผู้ป่วยมีร่างกายที่อ่อนแอหรือภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็กเกิดอาการชักได้และหญิงมีครรภ์อาจทำให้แท้งได้
การรักษาไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
ยังไม่มียารักษาเฉพาะ สำหรับผู้ที่ดูแลสุขภาพอย่างถูกต้องจะแข็งแรงขึ้นและหายป่วยได้เองใน 1-2 สัปดาห์ สำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรงมากๆ ควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาให้ทุเลาลงโดยเร็วและไม่ปรากฏภาวะแทรกซ้อน ที่อาจเป็นได้ดังนี้
-
คออักเสบหรือทอนซิลอักเสบ
-
ไซนัสอักเสบ
-
หูชั้นกลางหรือหูชั้นในอักเสบ
-
กล่องเสียงอักเสบ
-
หลอดลมอักเสบ
-
ปอดอักเสบหรือปอดบวม
การรักษาทางเลือก มะโฮ เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ
เบต้ากลูแคนจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้รักษาตัวเองตามธรรมชาติ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ภูมิต้านทาน(เซลล์เม็ดเลือดขาว)ให้ตื่นตัวและพร้อมที่จะทำงานอยู่เสมอ โดยจะทำหน้าที่ดักจับและฆ่าทำลายเชื้อไวรัส เพื่อป้องกันการฟักตัวของเชื้อไวรัสไม่ให้ลุกลามไปทั่วร่างกาย ข้อมูลเบต้ากลูแคน มะโฮเพิ่มเติมที่นี่
ผม : ทานมะโฮ ตอนเริ่มมีอาการ หรือหลังป่วยเป็นไข้หวัด วันละ 2 ซอง เช้าวันถัดมา จะหายป่วยเลยหรือบางครั้งถ้าป่วยหนักมากๆ เช้าวันถัดมา จะมีแรงทำงานได้ตามปกติ จากเมื่อก่อนจะกินยาพาราเซตามอลซึ่งเป็นผลเสียต่อตับ ไต
-
-
ผู้เขียนข้อความ
กำลังดู 1 ข้อความ - 1 ผ่านทาง 1 (ของทั้งหมด 1)